ราคาขายไส้เดือน ควรจะเป็นอย่างไร

ราคาขายไส้เดือน ในท้องตลาดที่ผมเห็นขาย ขายกัน ราคาอยู่ที่ 200-6000 บาท

ราคา 200 -350 บาทต่อกิโล น่าจะหาซื้อ ตาม ชานเมือง จะเดินทางเข้าไปลึกหน่อย โรงเลี้ยง หรือมาตราฐานก็อยู่ในเกณท์ธรรมดา ถึงต่ำ บางที รับปากไว้ แต่ไม่มีสินค้า เพียง เพราะเพื่อ อยาก ให้คนรู้จัก จะได้เห็นช่องทางการขายบ้าง (เพราะคนชอบของถูก) เวลาขายจริงๆ ก็จะไม่มีสินค้าหรือ ผลัดไปเรื่อย. (เคยเจอแล้ว)

ราคา 3000-6000 อะไรเนี้ยะ เป็นราคาโฆษณาสวยหรู แบบว่าเคยออกทีวี ถ้าพูดราคาน้อย แล้วจะน่าสนใจเหรอ. (ถามจริงกล้าซื้อเหรอ).

ผมเรียนตรงๆ ไส้เดือน 1kg เลี้ยงให้ได้ ยากนะครับ ที่เห็นส่งไส้เดือน ครั้งละ100 kg ส่วนมากจะขอมัดจำก่อน ตามเลี้ยงอีก2เดือน. แล้วเขาก็ปิดFacebook หายไป (ตามๆกันเอาเอง ซื้อของก็หาแหล่งที่น่าเชื่อถือจะดีกว่า. อย่าเข้าไปลุยกลางดง กลางป่าเลย เขาตีหัวขึ้นมาก็ยุ่งนะ)

ราคาที่น่าจะเหมาะสมคือ 500 บาท
จะอธิบายด้วยเหตุผล ดังนี้

ไส้เดือน 1kg เลี้ยงจริงๆ ตัวอ้วนสวย จับแบบมือ ไม่ใช่เครื่องร่อน(ร่อนคัดแบบนี้ ตัวช้ำ สักพัก จะมีอาการตายตามมา)

ใช้พื้นที่เลี้ยง 10 ตรม. (ค่าพื้นที่3เดือน 50 บาท)
ใช้ขี้วัว 10 กระสอบ (ราคาขี้วัว 250 บาท)
ค่าจ้างจับ กิโลละ50บาท
ค่าน้ำ 50 บาท
ค่าดูแล 3เดือน 100 บาท

รวม500 บาท

คิดให้ดูอย่างชัดเจน ไม่มีราคาเอาเปรียบเลย
ท่านไปซื้อราคาถูก เหมือนจะไปเอาเปรียบเขา

ราคานี้ครับ เหมาะสม. บริการเสริมของคนเลี้ยง แล้วแต่ครับ.

พี่น้องเพื่อนร่วมอาชีพ อย่ากดราคาตัวเอง หรือขายราคาสูงกว่านี้มากเกินไป ท่านก็จะเข้าเนื้อเอง แน่นอน.

ราคามูลไส้เดือน 8 – 35 บาท ต่อกิโล

ต้นทุน ขี้วัว แปรผันมาก เพราะค่าขนส่ง

แหล่งผลิตไส้เดือนที่ใกล้โซนเลี้ยงวัวจะได้ราคาประหยัดกว่า 2-5เท่า

ขี้วัว นครปฐม กระสอบละ 25 บาท (หน้าฟาร์ม 17 บาท)

ขี้วัว ปทุมธานี กระสอบละ 35 บาท

ขี้วัว สิงห์บุรี กระสอบละ 40 บาท

ขี้วัว จันทบุรี กระสอยละ50 บาท

ข้อเสีย การขนส่งขี้วัว คือ ขนาดใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบ กับขนาดขี้ไส้เดือน ต่างกัน เกือบ 4เท่า

ขนส่งโดยรถกะบะ มีแคบ ขนขี้วัวได้ 60 กระสอบ หนัก 600 กิโล
ขี้ไส้เดือน 60 กระสอบ หนัก 1200 กิโล
(กะบะ ขนหนักเต็มที่ 1.2ตัน)

ส่วนมากกะบะจะทำช่วงล่างใหม่ ขนขี้วัวกันที่ 250 กระสอบ จะสูงมาก จะได้หนัก 2.5 ตัน

ขนขี้ไส้เดือน แบบเน้นๆ จะได้ 4 ตัน. แต่ไม่สูงล้นเหมือนขนขี้วัว

ต้นทุนมูลไส้เดือน เริ่มที่ 5 บาทต่อกิโล
+ ค่าแรงงาน
+ ค่ากระสอบ ค่าด้าย

ก็จะเข้าใจ ว่าอย่างไรคือ ราคาที่เหมาะสม

อย่าลืมดูว่า ค่าขนส่งของเราที่จะไปซื้อสินค้า บางทีอยู่ใกล้แต่ราคาสูงกว่านิดหน่อย ก็ไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลา ยิ่งในกรุงเทพ ห่างแค่5kg ค่ามอเตอร์ไซค์ ก็คิด 100 บาทไปแล้ว

บางทีค่าขนส่งยังแพงกว่าค่าสินค้าเลย

ช่วงนี้กำลังศึกษา ต้นทุนสินค้าเกษตร แบบควบคุมได้ (อันนี้ลงทุนหลายอย่างโดยเฉพาะ โรงเรือนแบบปิด

ส่วนสินค้าเกษตรแบบควบคุมไม่ได้ คือ พืชผัก ที่ปลูกแล้ว มีโอกาสรับความเสียหายจากศัตรูพืช จะมาเล่าสู่กันฟังต่อครับ

 

Speak Your Mind

*