ปัญหาที่ไม่อยากรับไส้เดือนมาขาย

ต้องเรียนให้ทราบว่า ปัญหาที่ไม่อยากรับไส้เดือนมาขาย หรือ จะทำเป็นพ่อค้าคนกลาง ซื้อมา ขายไป ก็ขอชี้แจงครับ

ไส้เดือน มีคุณสมบัติพิเศษ หรือ คุณสมบัติเฉพาะตัว คือ ต้องอยู่ในดินเท่านั่น เคลื่อนย้าย อุณหภูมิเปลี่ยน ก็อาจจะตายได้

ไส้เดือน ง่ายต่อการมีชีวิต คือ ถ้ามีสภาพแวดล้อมเหมาะสมดี ก็เจริญเติบโตเร็ว ไม่ชอบการถูกรบกวน เช่น เอาขี้วัว หรือขยะไปกองจำนวนมาก เปิดน้ำจนท่วมพื้นที่เลี้ยง หลายต่อหลายครั้ง ที่ไส้เดือนตายยกฟาร์ม เพราะ การรบกวนของผู้คน (ฉันอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว 555)

[Read more…]

โรงกำจัดขยะสดประจำบ้าน

กรุงเทพ  เมืองใหญ่ มีผู้คนมาก  รถจำนวนมาก  ควันจากท่อ  ฝุ่น  การก่อสร้างคอนโดที่ขึ้น มากๆ  กองภูเขาขยะ  น้ำเน่า  หมาขี้เรื่ยราด ความไม่มีระเบียบ

สะพานลอยที่สร้างไว้ให้ดู  คนจะข้ามไหม  เมื่อรถมาจอดกันแบบนี้  ผมเข้ามาที่กรุงเทพ เมื่อใด  เป็นต้องสุขภาพไม่ดี  รู้สึกว่าคนที่อยู่ที่นี้ ต้องแข็งแรงจริงๆ ครับ  ชีวิตคนกรุงอยู่ได้ เพราะ กาแฟ   แล้วครับ  ถ้าวันไหนไม่ได้ กาแฟ คงจะเกิดอาการ หงุดหงิด  เครียด

ผมถามร้านกาแฟ ว่า  คนๆหนึ่งที่ทำงานออฟฟิค  กินกาแฟวันละกี่แก้ว   งง   3 แก้ว   ….แข็งแรงมากครับ

img_1727 img_1725

ต้องมาช่วยกัน แล้ว ……

ถึงเวลาแล้วครับ ที่แต่ละบ้านต้องมีโรงกำจัดขยะสด   ขยะเหล่านี้ แต่ก่อน คนที่ทำฟาร์มเลี้ยงหมู  จะนำรถกะบะมาจัดเก็บไปให้ แต่เดี่ยวนี้  ไม่มีแล้ว เพราะ ฟาร์มเลี้ยงหมู ในรอบกรุงเทพ หรือปริมณฑล  เป็นว่า ห้ามเลี้ยง   เป็นการเอื้อ การผลิตสุกร ให้กับบริษัท ซี พี ยักษ์ใหญ่แต่เพียงผู้เดียว

ดีแล้วครับ  การเลี้ยงสุกร ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น รบกวน คนอย่างมาก  แต่ก่อนท่านลองไปนครปฐม รู้เลยว่า มาถึงแล้ว เพราะกลิ่นสุกร  แต่ปัญหาเหล่านี้ จริงๆ ก็แก้ได้ โดยนำไส้เดือนมาย่อยมูลสุกร   แต่ด้วยนโยบายของระบบเมือง ทำให้ท่านที่อยู่ในเทศบาลเมือง ต้องเลิกอาชีพนี้ไป

พูดถึง การทำโรงกำจัดขยะสด   การเก็บขยะของรถ กทม.สีเขียว  แต่ละครั้ง มีกลิ่นเหม็นอบอวลของกลิ่นขยะเน่า   ที่หมักหมม แทนที่จะมากำจัดโดยไส้เดือนแต่ละบ้าน  กลายเป็นมลภาวะสิ่งเเวดล้อมอย่างแรก

แล้วต้องมาเสียค่าขยะ กันอีกมากมายทุกบ้าน  และรัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น   แทนที่คนจะได้ไปทำอาชีพอื่น กลับต้องมามีหน้าที่เก็บขยะให้เรา   งงจริงๆครับ  ประเทศแถบยุโรป ไม่มีอาชีพคนเก็บขยะเลยนะครับ

ถ้าไม่เริ่มวันนี้   คลอง  บึง ประเทศเราก็เป็นสีดำเน่า   เป็นนำ้เน่า  ในต่างประเทศ  ไม่มีน้ำเน่านะครับ  บ่อคลองของเขา น้ำใส ไหลสวยหอมน่ามอง    บ้านเรา  นำ้ดำเหม็นโคตรมองไม่ได้

เวรกรรมจริงๆ   บ้านไหนทำการตั้งชั้นเลี้ยงไส้เดือน กลับถูกมองว่า น่าสกปรก ขยะแขยง อีก  กรรม   คนดีๆ  เขาจะรักษาสิ่งแวดล้อม   ทัศนคติ บ้าบอ ยังฝังรากลึก  ไม่ดี

บอกได้คำเดียวว่า  ถึงเวลาแล้ว พี่น้องที่รักประเทศไทย

ทั้งชีวิตผม ทุ่มเท และให้ความรู้  และลงทุนทั้งเงิน และแรง ชีวิตผม ยอมหันเหมาทำจุดนี้  ลำบากตรากตรำ นะครับ  มาแบกขี้วัว  ขอเศษเปลือกกล้วย จากร้านกล้วยปิ้ง เก็บกองเปลือกส้มตามเสารถไฟฟ้า กากถั่วเหลืองจากร้านน้ำเต้าหู้4-5ร้านมาเลี้ยงไส้เดือน

วิธีชีวิตคนเมืองที่รีบเร่งแข่งขัน ทั้งการบริการ  การเอาเปรียบที่ชัดเจน   ถนนสีลม  ถนนมี 3 เลน

เลนแรก สำหรับจอดแท็กซี่   สามล้อ หรือ จอดรถส่วนบุคคล  เลนที่ 2  ก็ยังจอดอีก และรถเมล์

img_1835 img_1834

รถต้องวิ่งเลนที่3   นะครับท่านผู้รับผิดชอบ

ฟุตบาท ราคาแสนแพง  เซ้งกันหลักล้าน   เป็นที่ทำมาหากินของ เจ้าหน้าที่รัฐ      กิจการโรงแรม ที่มากเกินไป

ประชาชน คนธรรมดา ไม่มีสิทธิ  มองทีเดียวก็รู้   เรื่องราวประเทศไทย   ประชาธิปไตยที่ผูกขาด

ความต้องการตลาด สินค้านำเข้า   รมต. คุม    สินค้าพื้นฐาน อุปโภค บริโภค   เนื้อสัตว์  ตอนนี้นำเข้ามาทุกอย่าง

ผักผลไม้ ฟาร์มใหญ่ทางใต้ประเทศจีน  พื้นที่พันพันไร่  ส่วนพื้นที่ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน  จีนเช่าระยะยาว เรียบร้อย   พี่ไทยตอนนี้มีพื้นฐานดี  มีห้องให้เขาเช่า  เก็บค่าเช่ากิน แต่ทำงานไม่เป็น   ที่ไม่เป็นเพราะไม่ทำ

ไม่ทราบว่าต่อไป คนไทยจะทำงานอะไรกันครับ

 

ไส้เดือนกำจัดขยะไม่ได้

ต้องบอกทุกท่านก่อนเลยว่า  ไส้เดือนกำจัดขยะอินทรีย์ไม่ได้เพราะอะไร  …..

เพราะอะไร ไส้เดือนถึงกำจัดขยะอินทรีย์ได้

คำถามนี้วกวน   ด้วยทำธุรกิจปุ๋ย อยากลดต้นทุน เพื่อให้ได้ปริมาณปุ๋ยหรือมูลไส้เดือน เพิ่มขึ้น

ครั้งแรก ตามที่ดูวีดีโอ การเลี้ยงไส้เดือน เห็นเขาทำเป็นบ่อขยะ  …เอ้าง่ายจริง. ก็เริ่มหาขยะพืชผัก เศษอาหาร ผสมโรง ใส่ลงไปในขี้วัว (เข้าใจว่าขี้วัว ที่แช่น้ำแล้ว )  ผลปรากฏว่า พื้นที่เลี้ยงเน่าเหม็น มีแมลงหวี่ แมลงวัน

ไม่สำเร็จ. ไส้เดือนตายหมด.

แบบข้างต้น ที่เป็นปัญหานั่น เพราะ ไม่มีใครบอกหรือไม่สังเกตเอง. ก็แก้โดย การหมักขี้วัวทิ้งไว้ก่อน 1เดือน แล้วให้ขี้วัวแห้งที่เป็นก้อน เป็นโคลนเป็นเลน  หลังจากนั่น นำตัวไส้เดือนลงไป 1อาทิตย์  ถึงจะนำขยะอินทรีย์ เศษผักผลไม้ลงไปได้ …. จึงสำเร็จ  (ค่อยๆอ่านนะ เพราะ คิดไป เขียนไป )    จำได้ว่า ครั้งหนึ่ง มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งแถวแก่งกระจาน จีบผมมากเลย ว่าทำไมเลี้ยงไส้เดือน หลายปี ลงทุนทำโรงเรือนกว้างขวาง สั่งไส้เดือนผมไป50 กิโล ให้ไปส่ง ให้ค่ารถ ค่าที่พัก   สิ่งหนึ่ง คือต้องการให้เราไปดูว่าทำไมไส้เดือนเป็นอย่างนั่น   พบว่า ปัญหาน้ำเลี้ยง เป็นน้ำกร่อย น้ำนี้ไส้เดือนไม่ค่อยชอบ กัดตัว  อย่าว่าไส้เดือนเลย ปลูกพืชได้แค่มะพร้าว    น่าเสียดาย บางครั้งเรื่องเล็กแค่นี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะหมดไปหลายเงิน

ข้อควรระวัง การใส่ขยะมากเกินไป ทำให้เกิดก็าซพิษ ทำให้ไส้เดือนตายได้  ปริมาณการใส่ให้เทียบต่อพื้นที่ 1ใน10

ให้ผมทดลองทำ หลายครั้ง  บางครั้งได้ บางครั้งไม่ได้(ไส้เดือน ตายหมด)

น่าปวดหัวมากเลยครับ  ใส่ขยะ ใส่เศษผัก ให้ แล้วทำไมไส้เดือนไม่กินอีก ขยะไม่หายไปซะที  แมลงหวี่ก็มา  ยุงก็เยอะอีก สกปรกขยะแขยงด้วย

เจออีกแล้ว  สภาพแวดล้อม ยิ่งเลี้ยงไส้เดือนมากเท่าไหร่ ความต้องการออกซิเจน มากขึ้นตาม

ถ้าใครเคยเข้าไปในพื้นที่สีเขียว เขียวจริงๆ จะสัมผัสถึงอากาศที่ มันใช่  นั่นแหละครับ ไส้เดือน need อย่างนั่นเลย

ทำอย่างไรให้ไส้เดือนได้อากาศแบบนั่น   ผมลงทุนต่อ สร้าง ซุ้มครอบโรงเรือน เป็นไม้เลื้อย

รอวัน โต ….  เกือบปี กับโรงเรือนใหม่ที่ครอบด้วยต้นไม้ (อยู่ดีกว่าคนอีกนะ)

ชัดเจน  มูลไส้เดือน โอ้พระเจ้า มันทำเวลาได้ดีมาก

เปรียบ เหมือนคนนะ ถ้าเราจัดสภาพแวดล้อมให้ดี  คนมีคุณภาพ

จะทำเรื่องปุ๋ยเพื่อลดขยะครัวเรือน เห็นที่ต้นทุนจะสูงเกินไป    ไม่ได้โลกสวยเลยครับ

มูลไส้เดือน ดีจริง แต่ไม่ง่ายนะครับ  ไม่งั้นขายกันโลละ35 บาท  น่าเห็นใจจริงๆ เหนื่อยและหลายขั้นตอน

หัวใจ คือ เบดดิ้งอีกล่ะครับ

ทางเกษตรกรรม เบดดิ้งก็ใช้สำหรับเพาะต้นไม้ ปุ๋ยต้นไม้ได้

หากนำขี้วัวใหม่  ขี้วัวแห้ง มูลไก่ เอาไปใส่ต้นไม้เลย ผลลัพธ์ที่ใครๆก็รู้ คือ ตายแน่นอน

แต่ที่ไม่นิยมใช้ขี้วัว เพราะ ขี้วัว สารอาหารน้อย สร้างวัชพืช แหล่งกำเนิดเชื้อรา กว่าต้นไม้จะเริ่มดูดๆๆๆ อาหารได้ก็ 2เดือนขึ้นไป   เขาถึงให้เอาปุ๋ยคอกไปหมักกับกองฟางก่อน 2เดือน แล้วค่อยไปให้ต้นไม้นะครับ

เรื่อง เบดดิ้ง     เบดดิ้ง  คือ ที่ไส้เดือนอยู่   ถ้าให้ง่ายก็ใช้ขี้วัวหมัก ระยะหนึ่ง  (1เดือน) แล้วนำตัวไส้เดือนลง ไว้สักพัก สัก 2 วัน  เมื่อเริ่มเห็นขี้ไส้เดือน หรือเห็นสภาพ ที่ดี แล้ว  จึงนำเศษอาหารลงไป  รับประกันไม่เกิน 2 วัน เศษอาหาร 1 กำมือ หายไปแน่นอน

เรื่องก็มีเท่านี้  เขียนไปได้ ที่เขียนไปได้ เพราะ ทำแล้วไม่ได้ตามที่เขาบอก  เขาว่า พูดง่ายกว่าทำ

 

—–///—

ว่างเมื่อไหร่ จะมาต่อบทความนะครับ.

หลายๆบทความ ยังเขียนแบบผ่านไปก่อน จะพยายามกลับมาเติมและเรียบเรียงให้เข้าใจ กระจ่างนะครับ

ราคาขายไส้เดือน ควรจะเป็นอย่างไร

ราคาขายไส้เดือน ในท้องตลาดที่ผมเห็นขาย ขายกัน ราคาอยู่ที่ 200-6000 บาท

ราคา 200 -350 บาทต่อกิโล น่าจะหาซื้อ ตาม ชานเมือง จะเดินทางเข้าไปลึกหน่อย โรงเลี้ยง หรือมาตราฐานก็อยู่ในเกณท์ธรรมดา ถึงต่ำ บางที รับปากไว้ แต่ไม่มีสินค้า เพียง เพราะเพื่อ อยาก ให้คนรู้จัก จะได้เห็นช่องทางการขายบ้าง (เพราะคนชอบของถูก) เวลาขายจริงๆ ก็จะไม่มีสินค้าหรือ ผลัดไปเรื่อย. (เคยเจอแล้ว)

ราคา 3000-6000 อะไรเนี้ยะ เป็นราคาโฆษณาสวยหรู แบบว่าเคยออกทีวี ถ้าพูดราคาน้อย แล้วจะน่าสนใจเหรอ. (ถามจริงกล้าซื้อเหรอ).

ผมเรียนตรงๆ ไส้เดือน 1kg เลี้ยงให้ได้ ยากนะครับ ที่เห็นส่งไส้เดือน ครั้งละ100 kg ส่วนมากจะขอมัดจำก่อน ตามเลี้ยงอีก2เดือน. แล้วเขาก็ปิดFacebook หายไป (ตามๆกันเอาเอง ซื้อของก็หาแหล่งที่น่าเชื่อถือจะดีกว่า. อย่าเข้าไปลุยกลางดง กลางป่าเลย เขาตีหัวขึ้นมาก็ยุ่งนะ)

ราคาที่น่าจะเหมาะสมคือ 500 บาท
จะอธิบายด้วยเหตุผล ดังนี้

ไส้เดือน 1kg เลี้ยงจริงๆ ตัวอ้วนสวย จับแบบมือ ไม่ใช่เครื่องร่อน(ร่อนคัดแบบนี้ ตัวช้ำ สักพัก จะมีอาการตายตามมา)

ใช้พื้นที่เลี้ยง 10 ตรม. (ค่าพื้นที่3เดือน 50 บาท)
ใช้ขี้วัว 10 กระสอบ (ราคาขี้วัว 250 บาท)
ค่าจ้างจับ กิโลละ50บาท
ค่าน้ำ 50 บาท
ค่าดูแล 3เดือน 100 บาท

รวม500 บาท

คิดให้ดูอย่างชัดเจน ไม่มีราคาเอาเปรียบเลย
ท่านไปซื้อราคาถูก เหมือนจะไปเอาเปรียบเขา

ราคานี้ครับ เหมาะสม. บริการเสริมของคนเลี้ยง แล้วแต่ครับ.

พี่น้องเพื่อนร่วมอาชีพ อย่ากดราคาตัวเอง หรือขายราคาสูงกว่านี้มากเกินไป ท่านก็จะเข้าเนื้อเอง แน่นอน.

ราคามูลไส้เดือน 8 – 35 บาท ต่อกิโล

ต้นทุน ขี้วัว แปรผันมาก เพราะค่าขนส่ง

แหล่งผลิตไส้เดือนที่ใกล้โซนเลี้ยงวัวจะได้ราคาประหยัดกว่า 2-5เท่า

ขี้วัว นครปฐม กระสอบละ 25 บาท (หน้าฟาร์ม 17 บาท)

ขี้วัว ปทุมธานี กระสอบละ 35 บาท

ขี้วัว สิงห์บุรี กระสอบละ 40 บาท

ขี้วัว จันทบุรี กระสอยละ50 บาท

ข้อเสีย การขนส่งขี้วัว คือ ขนาดใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบ กับขนาดขี้ไส้เดือน ต่างกัน เกือบ 4เท่า

ขนส่งโดยรถกะบะ มีแคบ ขนขี้วัวได้ 60 กระสอบ หนัก 600 กิโล
ขี้ไส้เดือน 60 กระสอบ หนัก 1200 กิโล
(กะบะ ขนหนักเต็มที่ 1.2ตัน)

ส่วนมากกะบะจะทำช่วงล่างใหม่ ขนขี้วัวกันที่ 250 กระสอบ จะสูงมาก จะได้หนัก 2.5 ตัน

ขนขี้ไส้เดือน แบบเน้นๆ จะได้ 4 ตัน. แต่ไม่สูงล้นเหมือนขนขี้วัว

ต้นทุนมูลไส้เดือน เริ่มที่ 5 บาทต่อกิโล
+ ค่าแรงงาน
+ ค่ากระสอบ ค่าด้าย

ก็จะเข้าใจ ว่าอย่างไรคือ ราคาที่เหมาะสม

อย่าลืมดูว่า ค่าขนส่งของเราที่จะไปซื้อสินค้า บางทีอยู่ใกล้แต่ราคาสูงกว่านิดหน่อย ก็ไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลา ยิ่งในกรุงเทพ ห่างแค่5kg ค่ามอเตอร์ไซค์ ก็คิด 100 บาทไปแล้ว

บางทีค่าขนส่งยังแพงกว่าค่าสินค้าเลย

ช่วงนี้กำลังศึกษา ต้นทุนสินค้าเกษตร แบบควบคุมได้ (อันนี้ลงทุนหลายอย่างโดยเฉพาะ โรงเรือนแบบปิด

ส่วนสินค้าเกษตรแบบควบคุมไม่ได้ คือ พืชผัก ที่ปลูกแล้ว มีโอกาสรับความเสียหายจากศัตรูพืช จะมาเล่าสู่กันฟังต่อครับ

 

ผมเอาจริง และไม่เอาจริง เรื่องไส้เดือน

เอาจริง  หมายความว่า  สินค้า ต้องมีคุณภาพ  รับประกัน ไม่ทะเลาะด้วย  ไส้เดือนแข็งแรง  ตั้งใจทำ  วันๆ จับแต่ดิน คลุกและมองดู ไส้เดือน จน เรียกกว่า รักไส้เดือน   ปริมาณไส้เดือนต้องครบหรือเกินให้ลูกค้า  ครบวงจร  ไม่ดี เอาไปใหม่

ไม่เอาจริง หมายความว่า   ใครอยากจะมาซื้อ ก็ติดต่อซื้อมาได้เลย ไม่ได้เอาเป็นเอาตายกับคนมาซื้อ  จะซื้อก็ซื้อ ไม่ซื้อ ก็ไม่ซื้อ  ไม่ขายก็ไม่อยากขาย   ไม่เอาจริง อารมณ์แปรปรวน  มีประจำเดือน ก็ไม่ขาย 555  ไม่ได้มาคิดมากอะไร  ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจำลูกค้าไม่ได้สักคน  แบบว่า เยอะมากเกินไป

เพราะผม เป็นคนโรคจิต สันโดษ  ชอบอยู่คนเดียว (อย่าเพิ่งกลัวนะครับ บางทีลูกค้ามาซื้อเยอะๆ ก็บอกว่า ไม่ต้องมาซื้อแล้วนะ ไปหาซื้อที่อื่น 555) ลูกจ้างพอมาทำงานเลี้ยงได้ ขายได้ ก็ไล่ให้ไปทำเอง มีรายได้มากขึ้น ไม่ต้องมาอยู่ตรงนี้  ขยันๆ จะได้รวย ๆ  ตัวผมเองชอบและอยากเลี้ยงไปเรื่อย  ๆ   อยากเลี้ยงไว้เยอะๆ พอได้ปุ๋ยเยอะๆ  จะได้ให้ โกว ไปปลูกต้นมะนาว และ ต่อจากนี้   หลังจากที่ผม ทำโรงอบแห้งสำเร็จ สามารถดูข้อมูลสินค้าอบแห้งที่ www.coffee4skin.com   จะมีโครงการทำแปลงปลูกพืชสมุนไพร  30 แปลง แปลงละ  1.5  x  3  ตรม.  เพื่อผลิตสินค้าอบแห้งจำหน่าย

โดยเริ่ม  ปลูกใบบัวบก , ตะไคร้ , กระชาย , ขมิ้น  ,หญ้ารีแพร์  เป็นต้น

img_0490
กากกกาแฟอบแห้ง คุณภาพดี
img_0700
ขมิ้นชันอบแห้ง 100%
img_0701
ขมิ้นชันแพ็คสูญญากาศ ขนาด 100 กรัมราคา 50 บาท
img_0903
ขมิ้นชันนำมาอบแห้งในโรงอบ
img_1570
หญ้ารีแพร์ หลังจากมาอบแห้งใส่หัวบด

img_1573
นำมาใส่ในโรงอบ แห้ง ตอนนี้หอมจริงๆ

คนที่เลี้ยงไส้เดือน คือ คนที่รักษาความสะอาด

img_1587

ทำสิ่งสกปรกให้สะอาด     ขี้ไส้เดือนไม่มีกลิ่น   ไส้เดือน AF  ไม่มีกลิ่นเหม็น   ถ้ามันเหม็นแปลว่าตาย

กะลามัง สวยสะอาด  ตามรูปด้านล่าง

ตรงกลางสีเหลือง คือ กากถั่วเหลือง

1 กะลามังต่อ ไส้เดือน 1 กิโล   ผมสังเกต  และดูมาหลายปีแล้ว   กากถั่วเหลือง 1 กำมือใหญ่  ใช้เวลาเพียง 3 วัน หายไปกับตา

ไส้เดือนขี้ทุกวัน  1 Kg   อาหารดี ที่อยู่ดี  ได้ขี้ไส้เดือน ว้นละ 1 kg   (ราคาขายปลีก โลละ 35 บาท)

    ต้องสะอาด  ไม่งั้น เลี้ยงไส้เดือนไม่ได้    

การเลี้ยงไส้เดือน ช่วยสร้างอุปนิสัย การรักษาความสะอาด   หลายครั้ง ด้วยความขี้เกียจ  ไม่หยิบไม้กวาด ไม่สร้างพื้น   มดก็ขึ้น  หนูก็มา

img_1507 img_1524 img_1502 img_1551 img_1552 img_1554

การทำชั้นวาง ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ และสามารถทำความสะอาดพื้นที่ได้ง่าย

ในกะลามังเลี้ยง เมื่อใส่เศษอาหารต้องไม่มีกลิ่นเหม็นฉุน

พยายามสังเกตพื้น บริเวณเลี้ยง ต้องไม่เห็นขี้หนู  เพราะ อุปนิสัยของหนู จะขี้เรี่ยราด เป็นทาง และจะชอบกัดแทะ กะลามัง  วิธีแก้ไขต้องทำกับดัก หรือซื้ออาหารหนู(ขนมหนูให้กิน)

ถึงเวลาที่ต้องปลูกผักกินเอง (ขอร้องทำเถอะ เพราะ รพ.คนเยอะพอแล้ว)

วันหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากพยาบาลคนหนึ่ง มาขอซื้อไส้เดือน  จาก รพ.ทหารผ่านศึก   อีกวัน ได้รับโทรศัพท์ จากคุณหมอ  รพ.พระมงกุฏ   ผมมีลูกค้าที่เป็นคุณหมอ มาอุดหนุนไส้เดือนและปุ๋ย หลายท่าน  (เยอะ)  ในระหว่างนั่น มีบทสนทนา ว่าทำไม ท่าน วงการแพทย์ ถึงมาซื้อไส้เดือน ปุ๋ย ไป

ตอนนี้ ชีวิตผม ผ่านเข้า ออก โรงพยาบาล เป็นว่าเล่น   เพราะดูแลคนป่วย   หลายคน   แต่คนป่วยของผม ไม่ได้เป็นอะไรมาก

ผู้คนที่มารักษาตัวในโรงพยาบาล  ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ค่อนข้างเยอะ  จนเตียงผู้ป่วยไม่พอ ต้องนอนห้องรวม  หลายท่านต้องนอนรอ การผ่าตัด

ชีวิต  อาชีพ หมอ  ต้องยอมรับว่า อดทนสูง เพราะ เจอแต่ความทุกข์โศก ของคนป่วย  โรคร้าย การผ่าตัด หมอแต่ละท่านก็ต้องเครียด  เพราะ นั่นคือ ชีวิต

ฝากมาบอก     คุณหมอ  ฝากมาบอกว่า  ปัจจุบัน เรื่อง อาหารการกิน  มีสารพิษเยอะ  สำหรับคนอายุมาก พยายามลดเรื่อง แป้ง  ตอนนี้ คนไทยเป็นโรคอ้วนเยอะ   และเรื่องเนื้อสัตว์  มีสารก่อมะเร็งและสร้างเนื้อเยื่อเกินความจำเป็น   รณรงค์ให้มาทานผักปลอดสารพิษ    มากกว่าผลไม้  เพราะผลไม้ยังมีน้ำตาลเยอะ

แต่ผักบ้านเรา ถ้าไม่ปลูกเอง หรือ ล้างทำความสะอาดให้ดีพอ    ท่านก็รู้อยู่แล้ว ว่า มีสารฆ่าคนอยู่

วันนี้เลยมีเรื่อง ผักโฮโดรเข้ามาเยอะ  แต่บอกเลยว่า ผักพวกนี้ ไม่มีประโยชน์ เสียเงินฟรี

เอาผักพื้นๆ นะครับ ดีสุด

ผักที่ควรปลูกไว้รับประทานเองง่าย ๆ มีดังต่อไปนี้

1. พริก
2. ถั่วฝักยาว
3. กระเจี้ยบ
4. ชะอม
5. มะเขือ
6. มะเขือยาว
7. มะนาว
8. มะกรูด
9. ผักกระเฉด
10. ตะไคร้
11. ขมิ้น

12. คะน้า

img_1836
การปลูกผัก หรือต้นอ่อน ทาน ปลอดสารพิษ เป็นสิ่งจำเป็นมาก
สำหรับ ท่านที่พึงระลึกได้ ว่า ความสำคัญของชีวิต คือ การได้กินอาหารที่ไม่มีสารเคมี ปลอดสารพิษที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มัวแต่ทำงานทางอ้อม ไม่นึกถึงชีวิตทางตรงไว้เลย จะอยู่ลำบากนะครับ

เป็นแล้ว มารักษา   ไม่คุ้ม………..

เพราะห้องนี้รอท่านอยู่…..  ไม่นาน

img_1830

 

ทุกวันคือวันที่เริ่มใหม่ ลงมือใหม่

  • ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องลงมือทำ มีลูกน้องช่วยก็ดี แต่จะทำให้เป็นคนขี้เกียจในที่สุด ไม่มีลูกน้องก็ทำไม่ไหว เป็นคนที่ไม่มีความพยายาม ชอบใช้คนอื่น

อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ วันนี้ อย่ามัวมองไปจากตัวเราเองมากนัก มองแค่ตัวเราเองและคนรอบข้าง ด้วยระบบอุตสาหกรรมเข้ามา ชีวิตคนในเมืองก็จะรีบเร่ง

การปลูกพืชเชิงเดียวมีมากขึ้น รัฐบาลได้แต่พูด พอเพียง ตามพระราชดำรัส แต่นำมาใช้จริง ไม่ได้ กำหนดยุทธศาสตร์ผิด ต้องปรับระบบใหม่ทั้งประเทศ กลาย

เป็นว่า ประเทศเป็นเรื่อง โฆษณาชวนเชื่อหมด เชื่อว่า นายก ทำได้ แต่นายก ได้แต่พูด เพราะนายก ทำไม่ได้ ที่ทำไม่ได้ เพราะ นายกไม่ได้เป็นคนทำ

คนสนับสนุนไม่ทำ ก็โม้ไปได้แค่ ครึ่งปี ตอนนี้ก็หมดมุขกันหมดแล้ว เพราะ รูปธรรม ไม่เห็นเลย   (อันนี้ไม่ได้ว่านายก แต่เห็นใจนายก อยากให้กำลังใจทุกท่าน  ทุกท่านเป็นบุคคลระดับสูง สิ่งไหนถูกต้อง  ทำเลยครับ  ถูกใจอย่าทำ  ช่วยนายกด้วยนะครับ  นายกคนนี้ช่วยประเทศชาติ  พ้นจากความยากจน  เสมอภาค  ทุกคยจะมีสุขภาพดีถ้วนหน้า  ลืมตาอ้าปากค้าง)

รัฐบาลต้องลงทุน เป็นเจ้าภาพ และ ชี้นำ

1. โครงการที่รัฐบาลควรทำ ให้ยืมผักสวนครัว 20 อย่าง ฟรี ทุกครัวเรือน รณรงค์ ส่งเสริมเรื่องเกษตรอินทรีย์ เมื่อได้แล้ว ต้อง คืนให้รัฐบาล
2. ปศุสัตว์ ให้ยืม ไก่ วัว ทุกครัวเรือน เมื่อได้แล้ว ต้อง คืนให้รัฐบาล

เรื่องต่อไปนี้ รัฐบาลต้องทำ เพราะสิ่งเหล่านี้ เกิดกับครอบครัว ใครก็ไม่อยากให้เกิด
ผมเห็นน้องชอบกินเหล้า เห็นพี่ชอบสูบบุหรี่ ดีไหมครับ
1. หวย หยุดไปเลย
2. เหล้า เบียร์ บุหรี่ หยุดไปเลย
3. อาบอบนวด

หน่วยงานบางหน่วยงาน ยุบไปได้เลย กินภาษี งบประมาณ หน่วยงานไหน ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือมีไว้เพื่อ กั้นผลประโยชน์ให้คนไม่กี่คน ก็ เลิกไปเลย

บางหน่วยงาน มีไว้เพื่อกำกับดูแล ซับซ้อนกันไป กันมา มีไว้ทำไมครับ

หลักสูตร โตไม่โกง  :   เป็นไงล่ะครับ  เล่นกันเอง    ใครจะไม่โกง     ตัวผมเอง ยังเคยโกงเลยครับ  สารภาพ

แต่ที่เรียกว่า โกงของตัวเอง เพราะ ตอนนั่น คิดว่า การทำแบบนี้ คือโกง  แต่ไม่ใช่ครับ  ปรากฏว่า ถูกหรือผิด  เพราะคนในสังคมมองว่าโกง

บางครั้งอยู่กับคนหมู่มาก  ไม่ทำตามก็เป็นโกง   เช่น  มีซองทำบุญมา  ตัวเราเองไม่ค่อยชอบเรื่องพวกนี้   ไม่รู้ว่าเงินไปถึงไหน   ถึงทำไมต้องมาเรี่ยไร่กันขนาดนี้   เราไม่ทำบุญ   ถือว่า โกง

ทุกคนทำงาน เท่านี้พอ  แต่เราดันทำงานหนักกว่า   ขยัน ไม่สนใจคนอื่น  งานสังคมไม่ไป   ที่งานเรา เขามางาน   แบบนี้ เขาก็เรียกว่า โกง

การโกง เกิดจากอะไร  ไม่ค่อยจะมีกิน   จำเป็นต้องโกง   โกง เพราะ ความจำเป็น  แต่โกงอะไรล่ะ   โกง เพราะเบียดเบียนคน  ปล้น รึเปล่า   สรุปได้ว่า    การโกง  เพราะ  คิดว่า แบบนี้โกง

เพราะ โดนคนอื่น  พวกพ้องว่า โกง   ไม่เข้ากลุ่ม เป็นพรรคพวก  ไม่เอื้อประโยชน์

เพราะ  โกงจริงๆ    เสาไฟโคม ตามฟุตบาท  ในกทม.  สวย อันหนึ่งไม่ต่ำกว่า หมื่น   เก้าอี้นั่งเหล็กอย่างดี   ศาลาพัก ตามข้างทาง  ทำไปทำไมครับ   ไฟประดับ ปีใหม่  อะไร กว่า 30  ล้าน     นี้เพราะความทนไม่ได้ของคนใน  เราถึงรู้   ที่ไม่รู้ อีกมากมาย   พวกเราแค่ประชาชนคนธรรมดา ไม่มีอำนาจ   วาสนา   แค่ทุกวัน หาได้วันละ 500-1000  ก็จะแย่อยู่แล้ว

อะไรที่เป็นของกลาง ไม่มีคนดูแล ใครจะมาสนใจ ถนนในซอย บ้านไหน บ้านนั่นเลย เอาของมันกั้น ล็อคที่จอดรถ. ยึดทางเท้า ทำเสา ก่ออิฐ เป็นของส่วนตัวอย่างอัตโนมัติ ใครจะเดินผ่านยังไม่ได้เลย
เรื่องพวกนี้ เกิดกับตัวผม เลย ผมนี้เลยซวยที่สุด แต่ก่อน บ้านอยู่ในสลัมบ้านสุดท้าย บ้านข้างๆก็มาก่อกำแพงเพิ่มอีก คราวนี้มอเตอร์ไซต์เข้าได้แต่ออกไม่ได้. ท่านคิดดู ต้องถอยตูดออก กว่า 20เมตร.  นำ้ในตรอกก็ขัง. ระบายไม่ได้. ฟุตบาททางเดิน. บ้านเอี้ยก็เอารถมาจอด. ทำไงได้ เขาให้เดินเข้าบ้านก็บุญแล้ว.   ขยะก็ไม่มีที่ทิ้งเพราะรถเข้าไม่ได้

น้ำประปาบ้านหลังสุดไหลแรงที่สุด  โคตรแรงเลย  วันหนึ่งได้แค่ 3-4 ถัง   ต้องรองน้ำไว้ใช้.   ทุกอย่างบังคับ. คิดว่าชีวิตเริ่มแก้ปัญหาขยะ. ขยะคือพวกขี้เยี่ยว คนนี้แหละ. ให้ไส้เดือนกินไป เพราะบ้านข้างๆ ส้วมแตก ทะลักทุกวัน. ขี้มันเยอะมาก เพราะบ้านข้างๆ ทำเป็นบ้านเช่า. ตอนนี้ก็ต้องขอบคุณ  มันดีมาก ได้สิ่งมีค่ามาเลี้ยงไส้เดือน ชอบขี้มาก  ได้ปุ๋ย ได้ไส้เดือน . ไม่ได้โรคจิตนะครับ. สิ่งเเวดล้อมเป็นแบบนี้จะให้ผมทำอย่างไรล่ะ   ช่วยๆมาอยุ่กันเยอะๆเลย  ผมชอบ555

ข่าวเกษตร สร้างกระแส จริงหรือเปล่า

ธุรกิจฟาร์มไส้เดือน เริ่มต้นทุนเพียง 5,000 บาท ทำรายได้กว่า 30,000 บาทต่อเดือน อาศัยเพียงแรงงานหนึ่งคนและความตั้งใจ เจ้าของฟาร์มเผย เลี้ยงไม่ง่ายและหา9ลาดยาก หากไม่ทำครบวงจร ใช้สูตรอาหารสร้างมูลค่าเจาะตลาดผักอินทรีย์
‘ฟาร์มไส้เดือน’ อาจไม่ใช่แค่ฝันเล็กๆ ในสวนหลังบ้านสำหรับมนุษย์เงินเดือน หากเลี้ยงจริงจังทำรายได้หลักแสนต่อเดือน แต่ต้องสะสมองค์ความรู้เกี่ยวกับไส้เดือนและมีความตั้งใจสูง จึงจะประสบความสำเร็จได้ ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งอาจล้มไม่เป็นท่า

แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการเกษตร เมื่อกล่าวถึงปุ๋ยมูลไส้เดือน โดยเฉพาะเกษตรอินทรีย์ที่ต้องใช้วัตถุดิบเพาะปลูกจากธรรมชาติทั้งหมด การใช้ปุ๋ยมูลสัตว์จึงเป็นทางเลือกหลักของเกษตรปลอดสารพิษ

ข้อมูลจากสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (ACFS) ระบุว่ามูลไส้เดือนดินมีจุลินทรีย์หลากหลายชนิดมากกว่าที่พบในปุ๋ยหมักธรรมดา นอกจากนั้น ยังมีรายงานการวิจัยพบสารฮอร์โมนสำคัญเพื่อการเจริญเติบโตของพืชในมูลไส้เดือนดินเพิ่มขึ้นจากเดิม ทำให้แน่ใจได้ว่าในมูลไส้เดือนดินมีสารต่างๆ คือ ฮิวมัส (Humus) ออกซิน (Auxins) ไคเนตินส์ (Kinetins) จิเบอเรลริล (Giberellin) และไซโตไคนิน (Cytokinin) เป็นตัวควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

ปัจจุบันวิทยาศาสตร์เพิ่งเริ่มเข้าใจความสำคัญของสารอินทรีย์เหล่านี้ ว่า ทำหน้าที่ต่างๆ เช่น กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์พืช ทำให้รากรับอาหารไปใช้ การหันหน้าของดอกไม้เข้ารับแสงแดด ควบคุมความยาวของเซลล์ และแม้กระทั่งทำหน้าที่เป็นสารต้านการแก่ตัวของพืชไม่ให้เน่าเปื่อยเร็ว นอกจากนั้น ยังค้นพบว่ามีเอนไซม์ไคติเนส (Kitinase) ซึ่งสามารถละลายไคตินส์ สารชีวะเคมีชนิดหนึ่งที่ประกอบกันเป็นเปลือกชั้นนอกของแมลง ด้วยเหตุนี้มูลไส้เดือนดินจึงมีฤทธิ์ในการขับแมลง (Insect Repellent) อีกด้วย

สังเกตเพื่อสะสมองค์ความรู้

แรกเริ่มนั้นตนเองก็ประสบความล้มเหลวอย่างเช่นหลายคนที่เข้าวงการนี้เจอมา แต่กระนั้นหลังจากลองผิดลองถูก หมั่นสังเกต และสะสมองค์ความรู้ได้ระดับหนึ่ง จึงเข้าใจว่า ‘อาหาร’ และ ‘การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม’ นั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้ว่าไส้เดือนของเราจะรอดหรือไม่

โดยวิธีการเลี้ยงเริ่มจากเตรียมทำปุ๋ยหมักเพื่อเป็นที่อยู่และอาหารสำหรับไส้เดือน (Bedding) ใช้ส่วนผสม เช่น มูลวัว เศษเปลือกผักผลไม้ ฟาง ขี้เลื่อย ใบไม้ ขุยมะพร้าว นำมาคลุก แล้วหมักรวมกันประมาณ 1-2 เดือน ระหว่างนั้นให้รดน้ำพอชุ่มชื่น เมื่อได้แล้วใส่ปุ๋ยหมักลงในภาชนะที่จะเลี้ยงไม่ว่าจะเป็นกะละมัง บ่อซีเมนต์ และชั้นพลาสติก จากนั้นปล่อยไส้เดือนลงไป แล้วคอยให้อาหารไส้เดือนสม่ำเสมอ

ปัจจัยที่จะทำให้ไส้เดือนเจริญเติบโตดี ตัวโต ขยายพันธุ์รวดเร็ว รวมถึงได้มูลไส้เดือนที่จะไปทำปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดี คือต้องให้ไส้เดือนกินอาหารที่มีคุณประโยชน์สูง

“ธรรมชาติของไส้เดือนจะกินซากพืชซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยแล้วเท่านั้น อาหารเลี้ยงไส้เดือนจึงต้องผ่านกระบวนการหมักเพื่อให้อาหารเน่าเปื่อยและลดค่าความเป็นกรด โดยปกติแล้วไส้เดือนจะกินอาหารทุกประเภท แต่อาหารที่ใช้เลี้ยงไส้เดือนได้ดีคือมูลวัวนม เพราะอุดมไปด้วยธาตุอาหารที่ไส้เดือนต้องการ การเตรียมอาหารเลี้ยงไส้เดือนเริ่มจากใช้มูลวัวนมหมักในกะละมังหรือบ่อซีเมนต์ รดน้ำให้ชุ่มและพลิกกลับไปกลับมาทุก 3-5 วัน นาน 60 วัน หลังเตรียมอาหารเสร็จให้ปล่อยตัวไส้เดือนพ่อแม่พันธุ์ลงในภาชนะที่ใช้เลี้ยง”

ในด้านการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับวงจรชีวิตของไส้เดือน ธีรวัฒน์ระบุว่าสิ่งที่แรกที่ต้องทำความเข้าใจคือ ธรรมชาติของไส้เดือนหายใจทางผิวหนัง โดยขับเมือกห่อหุ้มร่างกาย การเตรียมที่อยู่ให้ไส้เดือนจึงต้องคำนึงถึงความชื้น ไม่แห้งหรือชื้นเกินไปจนเปียก อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 20-30 องศาเซลเซียส หากมีอากาศที่เย็นจัดหรือร้อนเกินไป จะทำให้ไส้เดือนกินอาหารและขยายพันธุ์ได้น้อย สังเกตจากการใช้มือกำดินผสมอาหาร หากมีความชื้นที่ดี อาหารจะเป็นรูปทรงโดยไม่แตกหรือมีน้ำซึมออกมาก หากแห้งเกินไปเนื้ออาหารจะแตกร่วน ไส้เดือนจะหนี หรือหากแฉะเกินไปจะทำให้ผิวหนังไส้เดือนเน่าเปื่อยได้

นอกจากนี้ การจัดแสงให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของไส้เดือนเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพราะไส้เดือนไม่สามรถทนต่อความร้อนของแสงแดดได้และชอบอยู่อาศัยในที่มืด จึงควรเลี้ยงไส้เดือนในที่ร่ม ให้มีเพียงแสงส่องรำไร หรือใช้เศษใบไม้คลุมผิวดินเพื่อพรางแสง

หลังปล่อยไส้เดือนลงภาชนะเลี้ยง ประมาณ 30 วัน ไส้เดือนจะเริ่มเปลี่ยนอาหารเป็นมูลและเริ่มเกิดตัวอ่อนขึ้นใหม่ ตรงนี้เป็นขั้นตอนการคัดแยกตัวไส้เดือนพ่อ-แม่พันธุ์ ตัวอ่อน ไข่ และมูลไส้เดือนออกจากกัน เริ่มจากคัดพ่อแม่พันธุ์ไส้เดือนย้ายไปลงภาชนะใหม่ที่เตรียมอาหารไว้ จากนั้นให้นำตระแกรงความถี่ขนาด 3 มิลลิเมตรร่อนดินออกเพื่อคัดแยกอาหารที่ไส้เดือนกินไม่หมดหรือเรียกว่ากากอาหาร หลังจากแยกกากอาหารออก จะได้มูลไส้เดือนที่มีไข่ไส้เดือนปนอยู่ แยกไข่ไส้เดือนออกจากมูลด้วยการร่อนอีกครั้งโดยใช้ตระแกรงขนาด 1มิลลิเมตร จะได้มูลไส้เดือนพร้อมใช้ ส่วนดินปนไข่ไส้เดือนให้นำไปรวมกับกากอาหารที่เหลือจากการคัดแยกครั้งแรกเพื่อรอฟัก ในเวลา 2 สัปดาห์ ส่วนลูกไส้เดือนใช้เวลาเลี้ยงต่อไปก็จะได้ผลผลิตทั้งมูลไส้เดือนทำปุ๋ยอินทรีย์ ขณะที่ตัวอ่อนก็จะมีออกใหม่เรื่อยๆ ทุกสัปดาห์ โดยตัวที่โตก็จะแยกออกไปเป็นพ่อแม่พันธุ์เพื่อลงภาชนะใหม่ต่อๆ กันไป

รายได้ขึ้นอยู่กับความจริงจังในการเลี้ยง

สำหรับเรื่องตลาดมูลไส้เดือน ปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยม เกิดผู้ผลิตขึ้นใหม่หลายราย จากเดิมที่ราคาปลีก กิโลละ 70-80 บาท ลดลงมาเหลือกิโลกรัมละ 35-50 บาท ผู้ผลิตแต่ละรายจึงต้องเพิ่มมูลค่าผลผลิตของตัวเอง อาทิ การคิดสูตรอาหารเลี้ยงไส้เดือนที่โดดเด่นและตรงความต้องการของตลาด เป็นต้นว่า หากต้องการตีตลาดผักก็จะใช้สูตรอาหารที่มีไนโตรเจนสูง เช่น ใส่กากถั่วเหลืองผสมกับอาหารเลี้ยง เป็นต้น หรือการผลิตน้ำหมักมูลไส้เดือน ใช้เป็นธาตุอาหารชนิดน้ำ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดสินค้าปลอดสารพิษ ปัจจุบันจำหน่ายราคาปลีกลิตรละ 150 บาท

สำหรับฟาร์มขนาดเล็กอย่างฟาร์ม ใช้แรงงานเพียงคนเดียว ยอดขายเฉพาะมูลไส้เดือนอย่างเดียว อยู่ที่เดือนละ 20,000–30,000 บาท ส่วนการขายตัวไส้เดือนก็สามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 500–800 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากเป็นฟาร์มครบวงจรขนาดใหญ่ มีผลิตภัณฑ์ครบวงจร อาทิ มูลไส้เดือน ตัวไส้เดือน น้ำหมักชีวภาพจากไส้เดือน ก็สามารถสร้างรายได้หลักแสนต่อเดือนได้

(ไม่จริงหรอกครับ ขายได้เดือนละ 2 ตัน ก็ถือว่าเยอะแล้ว ปัจจุบันราคาส่งอยู่ที่ โลละ 8 บาท ใครโง่ก็ไป….)

ทั้งนี้ หากจะเลี้ยงไส้เดือนอย่างจิรงจัง ผู้เลี้ยงจะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เลี้ยงไส้เดือนเพื่อวัตถุประสงค์อะไร จะเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพหลัก หรือเลี้ยงเพื่อเป็นงานอดิเรกหารายได้เสริม หรือเลี้ยงเพื่อต่อยอดจากธุรกิจเดิม เช่น อาชีพเกี่ยวกับการจัดสวนหรือเกษตรกรรมอื่นๆ เพราะประสบการณ์จากผู้ที่เคยล้มเหลวมาแล้วพบว่า การวางเป้าหมายที่ผิดพลาด การไม่พยายามหาตลาด และการดูแลเอาใจใส่ไส้เดือนที่ไม่ดีพอ ทำให้ผู้ที่ริจะทำฟาร์มไส้เดือนไปไม่ถึงฝั่งฝันมาหลายรายแล้ว

เลี้ยงไส้เดือนนะง่าย แต่เหนื่อยจับครับ

ไส้เดือนตัวลื่น ค่าแรงในการจับ โลละ 100 บาท  นั่งหลังขดหลังแข็ง

ระวังไส้เดือนที่จับจากเครื่องส่วนมากผิวหนังจะได้รับการบอบช้ำ  แล้วจะมาตายภายหลัง

การจับด้วยมือ   มือจก ดีที่สุด  ตัวจะแข็งแรง

ใครจะขายต่ำกว่า 300 ก็ดีครับ  ถือว่าสู้ชีวิต เพราะเหนื่อยมาก